
INTERVIEW – SHY MASSUNIVERSE
10/06/2013
By: admin
ชาย ลิมานนท์ คือใคร และตอนนี้ทำงานอะไรอยู่บ้าง
ผมจบ Graphic Design ที่ศิลปกรรมฯ มหาวิทยาลัยรังสิต พอเรียนจบปี 3 ผมโชคดีที่พี่ที่ Color Party ชวนไปทำงานตั้งแต่เรียน จึงเรียนปีสุดท้ายไปด้วยและทำงานไปด้วย จนทำงานกับ Color Party ได้ 2 ปี จึงไปเรียนต่อที่ Melbourne, Australia สาย Animation&Interactive Design และทำงานออกแบบควบคู่ไปด้วย ก่อนกลับผมส่งผลงานไปประกวดตามงาน Animation ในหลายๆประเทศ และได้ร่วมฉายในหลายๆที่เช่น England, Czechoslovakia, New Zealand, Spain แต่โชคดีที่ไปได้รางวัลจากที่ Nagayo ประเทศญี่ปุ่น และได้รางวัลที่ Melbourne จากนั้น ก็ตัดสินใจกลับมากรุงเทพ เริ่มเขียนบทความทางสายงานออกแบบ ซึ่งผมเขียนเป็นประจำอยู่แล้วที่ Melbourne สมัยยังเขียนให้กับ หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ฉบับหนึ่งของ Melbourne เพื่อหารายได้พิเศษ เลยกลับมาเขียนให้กับ DDT และ ART4d ควบคู่กับเริ่มรับงาน Freelance เอง
จากนั้นผมก็เริ่มไปเป็นอาจารย์พิเศษให้กับ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และมหาวิทยาลัยรังสิต จนวันหนึ่งได้รับรางวัล ศิษย์เก่าดีเด่น ในโอกาสครบรอบ 20 ปีของมหาวิทยาลัย จึงถูกทาบทามให้สอนประจำ แต่ผมทำได้ไม่ครบปีเนื่องจากปัญหาเรื่องหลักสูตรที่ไม่สอดคล้องกับผม ผมจึงตัดสินใจเปิดบริษัท ชื่อว่า Egazine ทำ Digital Magazine สายศิลปะและงานออกแบบต่างๆชื่อว่า Display Egazine ควบคู่ไปกับบริษัทออกแบบ ทำอยู่สองปี จนเวลาผ่านไปสักเกือบ 2ปี แนวทางของการทำงานระหว่างผมกับทีมงานไปกันไม่ได้ผมจึงออกมาทำเองและหยุดทำ Digital Magazine อีก และหันมามุ่งหน้าสร้างงานออกแบบอย่างเดียว ผมจึงเปิดบริษัท Int2Studio ขึ้นกับ โจ้ จนถึงปัจจุบันนี้บริษัทนี้ก็ยังเดินหน้าผลิตงาน ในแนวทางของ interactive design อย่างต่อเนื่อง ระหว่างทางช่วงปี 2010 จนถึงปัจจุบัน ผมก็ได้สร้าง Mass Universe ขึ้นมา (ในช่วงเริ่มต้น มีผม, รักกิจ , ตั้ม mmfk เรากะทำแนวทางการสอนดีไซน์รูปแบบใหม่ เท่านั้น) จนถึงปัจจุบันผมเป็น Design Director ของ int2studio และ Director ของ Mass Universe และสอนหนังสือทั้งในกรุงเทพ, เชียงใหม่และเชียงรายครับ
Mass Universe คืออะไร
จริงๆแนวคิดแรกคือผมคุยกับ รักกิจ และ ตั้ม mmfk ว่าเราอยากทำพื้นที่ที่มีการสอนดีไซน์ในรูปแบบเชิงทดลอง แต่ทำไปทำมาต่างคนต่างยุ่งและเริ่มมีทิศทางของตัวเอง ผมจึงดึงมาวางแผนใหม่ จนในปัจจุบันคือ บริษัทออกแบบทุกอย่างที่ Graphic เข้าไปมีส่วนร่วมทั้งในเชิงแนวคิด (conceptual) และในเชิงพาณิชย์ เราเลยแบ่งแมสเป็น 4 ส่วน คือ
1. Design&Consult สร้างงานออกแบบให้กับลูกค้าทุกประเภท Graphic Design, Interactive Design, motion Graphic etc.
2. Broadcasting คือทีมสร้างรายการที่เกี่ยวข้องกับงานออกแบบ
3. Graphic on Product ทีมออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ Graphic Design เข้าไปมีส่วนร่วมในตัวผลิตภัณฑ์
4. Experiment Design Education สร้างการเรียนการสอนวิชาออกแบบเชิงทดลอง ที่เราร่วมกับ Designer ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย รวมถึงจัดกิจกรรมบรรยายพิเศษจากนักออกแบบ
5. ทำงานศิลปะ
พูดให้ง่ายก็คือเราออกแบบทุกอย่างนะ เพราะเราเชื่อว่างานออกแบบและศิลปะมันอยู่ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอณูจริงๆ มันเลยชื่อ Mass Universe คือทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล
มี Project อะไรใหม่ๆให้ได้ติดตามบ้าง
ตอนนี้กำลังทำ Project
- พัฒนาหลายๆโครงการทั้งเป็นนักออกแบบรับเชิญ และ ที่ปรึกษาทางด้านงานออกแบบให้กับ Absolut Vodka ทั้งในด้านงานศิลปะ และงานออกแบบสื่อสารครับ
- รวมทั้งสร้างโครงการ MASSEX 2 ร่วมกับ Cannon
- ทำร้านชื่อ The Federation Store ขายสินค้าจากนักออกแบบ (ที่มาทางสายกราฟฟิก) เช่น URFACE, Designiti, Meme & Black – Moon, Surreal Soul, Kult, Artwork, Tua pen not, StudioFang, Rubber Killer, etc
- ทำโรงเรียนสอนศิลปะ เป็น Preschool โรงเรียนเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กที่จะเรียนมหาวิทยาลัยสายออกแบบครับ
- กำลังทำงานศิลปะในแนวทางของ Lettering type art ในนาม MOON (จะแล้วเสร็จเดือนกันยายน)
- ทำสารคดีชื่อ Graphicumentary เป็นสารคดีเกี่ยวกับ Graphic Design ในเมืองไทยครับ
- และล่าสุดคือกำลังทำ Conference ครับ แต่ยังไม่ลงตัวไว้ลงตัวแล้วจะแจ้งดีกว่าครับ แต่เป็น Design Conference แบบ 2-3 วัน ที่เกี่ยงข้องกับนักออกแบบจากประเทศไทยล้วนๆ
- ทำบริษัทออกแบบ Furniture ชื่อ MassSunday ร่วมกับทีม Lazy Sunday Party ที่เชียงใหม่ครับ
- แล้วก็เป็นกรรมการของสมาคมนักออกบแบบ Graphic แห่งประเทศไทยครับ
คิดว่าตอนนี้คนไทยพัฒนาในเรื่องศิลปะมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมั้ย
มันต้องพัฒนามากขึ้นแน่นอนครับ โดยเฉพาะเรื่องเทคนิคนี่ผมว่าไปไกลมาก เพราะเราเข้าถึงโลกได้ง่ายขึ้น โลกมันเล็กลง สรุป ผมว่ามันมากขึ้นแต่การพัฒนามันยังไม่ชัดเจน ผมว่ามันยังเกร็งๆแปร่งๆ
ถ้าอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Mass Universe ต้องทำอย่างไรบ้าง
จริงๆผมไม่เน้นนะว่าต้องเก่ง หรือเก่งอะไรมา ถ้าทัศนคติต่องานดี ผมว่าปรับได้หมด และตั้งใจมาทำงานในเวลางาน ก็พอ คือถ้ามาเล่นกัน ผมว่าตัวคนที่มาร่วมงานกะเราเองก็จะไม่ได้อะไรด้วย ต้องมีวินัย วินัยเป็นสิ่งสำคัญของนักออกแบบนะครับ และสุดท้ายผมว่าขอให้รู้จักสิ่งที่กำลังทำ เช่นรู้ประวัติของงานออกแบบ รู้ว่า Front ที่ใช้ชื่ออะไร งานออกแบบแนวนี้เรียกว่าอะไร รู้จักศึกษาเรียนรู้ที่มาของงานแต่ละประเภท
ผลงานศิลปะที่บ่งบอกความเป็นตัวองมากที่สุดคืออะไร
ผมชอบงานตัวอักษรครับ คือชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่ใช่ออกแบบตัวอักษรนะ ชอบงาน Lettering หรือ Typographic ผมไม่อึดพอและไม่เก่งพอที่จะออกแบบตัวอักษรได้ทั้งตระกูลหรือทั้งชุด งานของผมมันจะเยอะๆ รกๆ สีสันเยอะๆ เพราะผมเลือกไม่ค่อยถูก







ฝากถึงเด็กๆที่อยากเข้ามาใน Scene นี้แต่ยังหาตัวตนของตัวเองไม่เจอสักหน่อย
จริงๆผมฝากว่าขอให้ลุ่มหลงและรักมัน พอเราลุ่มหลงและรักมันแล้วเราจะทำมันออกมาด้วยความรู้สึกและเป็นธรรมชาติ ซึ่งผมว่านั่นแหละตัวเรา แล้วก็ลองแหงนมองท้องฟ้าเยอะๆ มองกิ่งก้านสาขาของต้นไม้บ่อยๆ ผมว่ามันซ้อนพลังบางอย่าง
ถ้าไม่ได้ทำงานอยู่ตรงจุดนี้ คิดว่าจะทำอะไรอยู่
ผมอยากทำร้านหนังสือ ร้านขายหนังสือ ที่มีบาร์เหล้าด้วย จะได้เปิดได้ทั้งกลางวันกลางคืน ผมชอบอะไรนิ่งๆเงียบๆ
เพลงที่บ่งบอกความเป็นตัวเองมากที่สุดคือเพลงอะไร
จริงๆมันมีหลายเพลงนะ แต่ถ้านึกได้ตอนนี้คง No Surprises/ Radiohead/From Album OK Computer…..นอกจากปกสวย โดย Stanley Donwood แล้วชุดนี้คือเราว่าทำให้โลกเปลี่ยนแปลงบางอย่างจริงๆ
A heart that’s full up like a landfill
A job that slowly kills you
Bruises that won’t heal
หัวใจที่ถูกเติมเต็มเหมือนหลุมเกรอะ
ชีวิตการงานที่ค่อยๆบีบลมหายใจคุณหมดไปอย่างช้าๆ
ความเจ็บช้ำซ้ำเติมที่ไร้การเยียวยา
You look so tired and unhappy
Bring down the government
They don’t, they don’t speak for us
I’ll take a quiet life
A handshake of carbon monoxide
ดูเหมือนคุณจะเหนื่อยล้าและไร้สุข
ขับไสผู้บริหารบ้านเมืองออกไปเสียที
ไม่เคยเลย พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อเราเลย
ฉันจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ
สัมผัสเต็มๆกับก๊าซคาร์บอน มอนอกไซด์
No alarms and no surprises
No alarms and no surprises
No alarms and no surprises
Silent, silent
ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องประหลาดใจ
ไม่ต้องตื่น ไม่ต้องฉงน
ไม่ต้องลนลาน ไม่ต้องแปลกใจ
ความเงียบ ความสงบอันนิรันดร์

bill@tempobkk.com