Carl Craig
15/12/2016
By: WINKIEB
ถ้าให้สืบสาวราวเรื่องของดนตรี Detroit Techno เราก็จะได้ยินชื่อของ Carl Craig อยู่ในอันดับต้นๆของ Scene ทั้งการเป็นศิลปินและ Producer ที่มีอิทธิพลกับศิลปินในยุคปัจจุบัน
Carl Craig เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1969 ที่เมือง Detroit และเข้าเรียนที่ Cooley High School ที่ๆทำให้เขาหันมาสนใจและพัฒนาตัวเองในด้านดนตรีอย่างจริงจัง Craig เริ่มเรียนกีต้าร์และต่อมาจึงเริ่มที่จะสนใจใน Club Music ผ่านทางญาติที่ทำงานด้าน Lighting ในปาร์ตี้ของเมือง Detroit หลังจากนั้นก็บัญเอิญได้ฟัง Derrick May ในวิทยุช่อง WJLB จึงเริ่มทดลองใช้เครื่องเล่นเทปบันทึกเสียง รวมไปถึงยังพูดคุยกับครอบครัวเรื่องการซื้อ Synthesizer และ Sequencer เป็นของตัวเอง และเรื่องการลงเรียน Electronic Music ไปด้วย จนในที่สุดเขาก็ได้เจอกับผู้ที่แนะนำให้ได้รู้จักกับ Derrick May พร้อมกับนำเทปที่บันทึกการทำเพลงครั้งแรกของเขาให้กับ Derrick May ที่ Studio นั่นคือความประทับใจแรกที่ Derrick May มีต่อ Craig ในปี 1989 จนเกิดเป็นผลงานเพลงครั้งแรกใน “Neurotic Behavior.”
ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงกลายมาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของ Scene Detroit techno รุ่นที่ 2 ที่เป็นทั้ง Producer และ Dj หลายคนพูดถึงเขาว่า เขาคือศิลปินที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในกลุ่ม เป็นศิลปินที่มีทักษะ ฉลาด และมีความตั้งใจที่ทำให้ดนตรี Techno โตขึ้น เป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น เขานำดนตรี Techno มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในหลายๆอย่าง นั่นรวมไปถึงดนตรี Jazz และ Soul ที่เขาชื่นชอบอีกด้วย
มาในปี 1989 Craig เปิดตัวอัลบั้มจำนวนมากภายใต้นามแฝงอย่าง BFC, Psyche, Paperclip People, 69, Designer Music และ Innerzone Orchestra นอกจากนี้เขายังได้ร่วมทำอัลบั้มที่ยิ่งใหญ่กับ NYDJ Patrick Picasso และประสบความสำเร็จอย่างมาก ภายใต้ชื่อ Innerzone Orchestra เป็น Track แรกในอัลบั้ม Virgin UK compilation ที่มี Derrick May ร่วมงานด้วยอัลบั้มนี้ ถัดมาในปี 1992 เขาได้ปล่อยผลงานเพลง “Bug in The Bassbin” Track ที่ได้รับอิทธิพลของดนตรี Drum & Bass เข้ามามีส่วนร่วมกับดนตรี Jazz ต่อมาในปี 1996, 1999, 2000, 2009 Craig ได้ดึงเอาความเป็น Detroit มาใส่ลงไปในดนตรี Jazz ทุกๆ Single ทุกๆ Track ที่เขาทำและยังวาง Composition อัลบั้มต่างๆด้วยตัวเอง อย่างเช่นอัลบั้ม “Programmed”, “The Detroit Experiment” และ “Rebirth” เป็นต้น
Craig สร้างค่ายเพลงของตัวเองที่ชื่อ Planet E Communications ที่แยกออกจากการทำงานของเขาเอง และมี Release ของศิลปินที่คุณรู้จักอยู่ในค่ายนี้มากมายทั้ง Kevin Saunderson, Alton Miller และ Moodymann เป็นต้น นอกจากนี้แล้วเขายังทำหน้าที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการของเทศการดนตรี Detroit Electronic Music Festival ในปี 2000 – 2001 เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น เพราะทางผู้จัดงานเลิกจ้าง จึงทำให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นใน Detroit techno community ,ในปี 2001 Craig ยื่นฟ้องฐานละเมิดสัญญาของผู้จัดงานโดยบริษัท Pop Culture Media เกิดเป็นเรื่องแตกหักจนถึงขึ้นโรงขึ้นศาลและมีทนายมาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ หลังจากทุกอย่างจบลง Craig กลับมาพร้อมตำแหน่ง Artistic Director ของงาน Detroit Electronic Music Festival ในปี 2010 และ Team up กับ ‘Paxahau’ Producer จัดงานที่สร้างงาน Festival นี้ให้กลับมาเจ๋งอีกครั้งอย่างเช่นในปีที่ผ่านมา
มองย้อนกลับมาดูในช่วงปี 1989-จนถึงปัจจุบัน เราได้เห็นความหลากหลายของผลงานเพลง ในอาชีพการทำงานของ Craig เขาเป็นคนที่โชคดีที่ได้ทำหน้าที่สร้างแรงบันดาลใจ และมีอิทธิพลต่อศิลปินใน Scene Underground Music มานับไม่ถ้วนแม้แต่ Underworld, Hot Chip และ LCD Soundsystem เองก็ด้วย เราได้เห็นพัฒนาการทางด้านดนตรีของเขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการผสมผสานดนตรีหลายๆแนวเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เราได้ฟังผลงาน Masterpiece อย่างอัลบั้มล่าสุด Versus ที่จะนำเพลง Electronic Music มาผสมกับดนตรี Classic อย่าง orchestra. เป็นโปรเจคที่ใช้เวลาคิดมาสิบๆปี และวันนี้ก็พร้อมเปิดตัวให้ทุกคนได้ฟังกันไปบ้างแล้ว
ผลงานที่ผ่านมา
Albums
Carl Craig: Landcruising, 1995
69: The Sound of Music, 1995
Paperclip People: The Secret Tapes of Doctor Eich, 1996
Carl Craig: More Songs About Food and Revolutionary Art, 1997
More Songs About Buildings and Food
Innerzone Orchestra: Programmed, 1999
Carl Craig: The Album Formerly Known As…, 2005
Carl Craig & Moritz von Oswald: ReComposed, 2008
Versus 2017
Selected singles and EPs
“No More Words” (12″), 1991
69: 4 Jazz Funk Greats (12″ ep), 1991
Paperclip People: “Throw” (12″), 1994
“Science Fiction” (12″), 1995
Paperclip People: “The Climax” (12″), 1995
Paperclip People: “Floor” (12″), 1996
“A Wonderful Life” (12″), 2002
Just Another Day (12″ ep), 2004
“Sparkle / Home Entertainment” (12″), 2005
“Darkness / Angel” (12″), 2006
Paris Live (12″), 2007
DJ-mixes and compilations
Psyche/BFC: Elements 1989-1990, 1996
DJ-Kicks: Carl Craig, 1996
House Party 013: A Planet E Mix, 1999
Designer Music Volume One, 2000.
Abstract Funk Theory, 2001
Onsumothasheeat, 2001
The Workout, 2002
Fabric 25, 2005
From the Vault: Planet E Classics Collection Vol. 1, 2006
Sessions, 2008
BBC Radio 1 Essential Mix, 2011
The Detroit Experiment (2003)
Sun Ra Dedication: The Myth Lives on 2003
เราพูดในด้านของการเป็นนักดนตรีมาเยอะพอสมควรแล้ว มาพูดถึงในด้านของการเป็น Dj กันบ้าง ถ้าใครเป็นแฟนตัวจริงต้องรู้ว่านอกจากการเป็น Dj แล้วเขายังชื่นชอบ Live set จะยกเอาเครื่องดนตรีทั้ง Synthesizer, Modular, Drum machine ขึ้นโชว์ตัวใน Set สุดเจ๋งกันแบบสดๆ หรือการเล่น Dj ในบางครั้งคุณจะไม่ได้ยินเพลงฮิตติดชาร์ตของเหล่า Dj Techno ทั้งหลายเลยถ้าสังเกตุให้ดี แถม Selection การเลือกเพลงก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก คุณจะถูกสะกดให้อยู่ใน Dancefloor แบบไม่อยากออกไปไหนเลยทีเดียว
Carl Craig เป็นเหมือนจินตนาการของความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้นแบบของคนดนตรี Electronic music ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ในสาขา Composer เป็น Dj ระดับโลกและเป็นตัวแทนสำหรับชาวเมือง Detroit ยังไม่หมดแค่นั้น Craig ยังเคยกล่าวเอาไว้ว่า “ชีวิตและการทำงานของผมคือการทำเพลงที่ผมสามารถทำได้ ไม่ว่าผมจะทำเพลง Orchestra หรือเล่น Modular หรือสร้าง Club music ผมไม่เคยปิดกั้นตัวเอง ผมรู้ตัวเองว่าผมเป็นใคร และเคารพตัวเองที่สุด เมื่อคุณบอกว่าคุณจะทำบางอย่าง คุณจะต้องทำมันให้ดีที่สุด ตามความสามารถของคุณเอง”
ถึงตอนนี้มันไม่ใช่แค่พรสวรรค์ มันคือความสนใจ ใส่ใจ และมุ่งมั่นในสิ่งที่เขารัก จนเกิดเป็นผลงานมากว่า 27 ปี ที่คุณจะได้พบกันเขาแบบเต็มๆในวันพุธที่ 28 นี้พร้อมๆกันที่ BEAM เท่านั้น
Carl Craig เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1969 ที่เมือง Detroit และเข้าเรียนที่ Cooley High School ที่ๆทำให้เขาหันมาสนใจและพัฒนาตัวเองในด้านดนตรีอย่างจริงจัง Craig เริ่มเรียนกีต้าร์และต่อมาจึงเริ่มที่จะสนใจใน Club Music ผ่านทางญาติที่ทำงานด้าน Lighting ในปาร์ตี้ของเมือง Detroit หลังจากนั้นก็บัญเอิญได้ฟัง Derrick May ในวิทยุช่อง WJLB จึงเริ่มทดลองใช้เครื่องเล่นเทปบันทึกเสียง รวมไปถึงยังพูดคุยกับครอบครัวเรื่องการซื้อ Synthesizer และ Sequencer เป็นของตัวเอง และเรื่องการลงเรียน Electronic Music ไปด้วย จนในที่สุดเขาก็ได้เจอกับผู้ที่แนะนำให้ได้รู้จักกับ Derrick May พร้อมกับนำเทปที่บันทึกการทำเพลงครั้งแรกของเขาให้กับ Derrick May ที่ Studio นั่นคือความประทับใจแรกที่ Derrick May มีต่อ Craig ในปี 1989 จนเกิดเป็นผลงานเพลงครั้งแรกใน “Neurotic Behavior.”
ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงกลายมาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญของ Scene Detroit techno รุ่นที่ 2 ที่เป็นทั้ง Producer และ Dj หลายคนพูดถึงเขาว่า เขาคือศิลปินที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในกลุ่ม เป็นศิลปินที่มีทักษะ ฉลาด และมีความตั้งใจที่ทำให้ดนตรี Techno โตขึ้น เป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น เขานำดนตรี Techno มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในหลายๆอย่าง นั่นรวมไปถึงดนตรี Jazz และ Soul ที่เขาชื่นชอบอีกด้วย
มาในปี 1989 Craig เปิดตัวอัลบั้มจำนวนมากภายใต้นามแฝงอย่าง BFC, Psyche, Paperclip People, 69, Designer Music และ Innerzone Orchestra นอกจากนี้เขายังได้ร่วมทำอัลบั้มที่ยิ่งใหญ่กับ NYDJ Patrick Picasso และประสบความสำเร็จอย่างมาก ภายใต้ชื่อ Innerzone Orchestra เป็น Track แรกในอัลบั้ม Virgin UK compilation ที่มี Derrick May ร่วมงานด้วยอัลบั้มนี้ ถัดมาในปี 1992 เขาได้ปล่อยผลงานเพลง “Bug in The Bassbin” Track ที่ได้รับอิทธิพลของดนตรี Drum & Bass เข้ามามีส่วนร่วมกับดนตรี Jazz ต่อมาในปี 1996, 1999, 2000, 2009 Craig ได้ดึงเอาความเป็น Detroit มาใส่ลงไปในดนตรี Jazz ทุกๆ Single ทุกๆ Track ที่เขาทำและยังวาง Composition อัลบั้มต่างๆด้วยตัวเอง อย่างเช่นอัลบั้ม “Programmed”, “The Detroit Experiment” และ “Rebirth” เป็นต้น
Craig สร้างค่ายเพลงของตัวเองที่ชื่อ Planet E Communications ที่แยกออกจากการทำงานของเขาเอง และมี Release ของศิลปินที่คุณรู้จักอยู่ในค่ายนี้มากมายทั้ง Kevin Saunderson, Alton Miller และ Moodymann เป็นต้น นอกจากนี้แล้วเขายังทำหน้าที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการของเทศการดนตรี Detroit Electronic Music Festival ในปี 2000 – 2001 เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น เพราะทางผู้จัดงานเลิกจ้าง จึงทำให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นใน Detroit techno community ,ในปี 2001 Craig ยื่นฟ้องฐานละเมิดสัญญาของผู้จัดงานโดยบริษัท Pop Culture Media เกิดเป็นเรื่องแตกหักจนถึงขึ้นโรงขึ้นศาลและมีทนายมาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ หลังจากทุกอย่างจบลง Craig กลับมาพร้อมตำแหน่ง Artistic Director ของงาน Detroit Electronic Music Festival ในปี 2010 และ Team up กับ ‘Paxahau’ Producer จัดงานที่สร้างงาน Festival นี้ให้กลับมาเจ๋งอีกครั้งอย่างเช่นในปีที่ผ่านมา
มองย้อนกลับมาดูในช่วงปี 1989-จนถึงปัจจุบัน เราได้เห็นความหลากหลายของผลงานเพลง ในอาชีพการทำงานของ Craig เขาเป็นคนที่โชคดีที่ได้ทำหน้าที่สร้างแรงบันดาลใจ และมีอิทธิพลต่อศิลปินใน Scene Underground Music มานับไม่ถ้วนแม้แต่ Underworld, Hot Chip และ LCD Soundsystem เองก็ด้วย เราได้เห็นพัฒนาการทางด้านดนตรีของเขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการผสมผสานดนตรีหลายๆแนวเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เราได้ฟังผลงาน Masterpiece อย่างอัลบั้มล่าสุด Versus ที่จะนำเพลง Electronic Music มาผสมกับดนตรี Classic อย่าง orchestra. เป็นโปรเจคที่ใช้เวลาคิดมาสิบๆปี และวันนี้ก็พร้อมเปิดตัวให้ทุกคนได้ฟังกันไปบ้างแล้ว
ผลงานที่ผ่านมา
Albums
Carl Craig: Landcruising, 1995
69: The Sound of Music, 1995
Paperclip People: The Secret Tapes of Doctor Eich, 1996
Carl Craig: More Songs About Food and Revolutionary Art, 1997
More Songs About Buildings and Food
Innerzone Orchestra: Programmed, 1999
Carl Craig: The Album Formerly Known As…, 2005
Carl Craig & Moritz von Oswald: ReComposed, 2008
Versus 2017
Selected singles and EPs
“No More Words” (12″), 1991
69: 4 Jazz Funk Greats (12″ ep), 1991
Paperclip People: “Throw” (12″), 1994
“Science Fiction” (12″), 1995
Paperclip People: “The Climax” (12″), 1995
Paperclip People: “Floor” (12″), 1996
“A Wonderful Life” (12″), 2002
Just Another Day (12″ ep), 2004
“Sparkle / Home Entertainment” (12″), 2005
“Darkness / Angel” (12″), 2006
Paris Live (12″), 2007
DJ-mixes and compilations
Psyche/BFC: Elements 1989-1990, 1996
DJ-Kicks: Carl Craig, 1996
House Party 013: A Planet E Mix, 1999
Designer Music Volume One, 2000.
Abstract Funk Theory, 2001
Onsumothasheeat, 2001
The Workout, 2002
Fabric 25, 2005
From the Vault: Planet E Classics Collection Vol. 1, 2006
Sessions, 2008
BBC Radio 1 Essential Mix, 2011
The Detroit Experiment (2003)
Sun Ra Dedication: The Myth Lives on 2003
เราพูดในด้านของการเป็นนักดนตรีมาเยอะพอสมควรแล้ว มาพูดถึงในด้านของการเป็น Dj กันบ้าง ถ้าใครเป็นแฟนตัวจริงต้องรู้ว่านอกจากการเป็น Dj แล้วเขายังชื่นชอบ Live set จะยกเอาเครื่องดนตรีทั้ง Synthesizer, Modular, Drum machine ขึ้นโชว์ตัวใน Set สุดเจ๋งกันแบบสดๆ หรือการเล่น Dj ในบางครั้งคุณจะไม่ได้ยินเพลงฮิตติดชาร์ตของเหล่า Dj Techno ทั้งหลายเลยถ้าสังเกตุให้ดี แถม Selection การเลือกเพลงก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก คุณจะถูกสะกดให้อยู่ใน Dancefloor แบบไม่อยากออกไปไหนเลยทีเดียว
Carl Craig เป็นเหมือนจินตนาการของความคิดสร้างสรรค์ เป็นต้นแบบของคนดนตรี Electronic music ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ในสาขา Composer เป็น Dj ระดับโลกและเป็นตัวแทนสำหรับชาวเมือง Detroit ยังไม่หมดแค่นั้น Craig ยังเคยกล่าวเอาไว้ว่า “ชีวิตและการทำงานของผมคือการทำเพลงที่ผมสามารถทำได้ ไม่ว่าผมจะทำเพลง Orchestra หรือเล่น Modular หรือสร้าง Club music ผมไม่เคยปิดกั้นตัวเอง ผมรู้ตัวเองว่าผมเป็นใคร และเคารพตัวเองที่สุด เมื่อคุณบอกว่าคุณจะทำบางอย่าง คุณจะต้องทำมันให้ดีที่สุด ตามความสามารถของคุณเอง”
ถึงตอนนี้มันไม่ใช่แค่พรสวรรค์ มันคือความสนใจ ใส่ใจ และมุ่งมั่นในสิ่งที่เขารัก จนเกิดเป็นผลงานมากว่า 27 ปี ที่คุณจะได้พบกันเขาแบบเต็มๆในวันพุธที่ 28 นี้พร้อมๆกันที่ BEAM เท่านั้น
Source : Carl Craig
WINKIEB
bill@tempobkk.com
ผู้รักเสียงเพลง และดนตรีสังเคราะห์เป็นชีวิตจิตใจ
